31 ตุลาคม 2567
โดยในโอกาสการเปิดตัวกลยุทธ์เซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ รัฐบาลมาเลเซียตั้งเป้าหมายการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อย่างน้อย 107,000 ล้านดอลลาร์ และเตรียมงบสนับสนุนอย่างน้อย 5,300 ล้านดอลลาร์ เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติและพัฒนาทักษะวิศวกรชาวมาเลเซียกว่า 60,000 คนให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมนี้
การลงทุนจากบริษัทต่างชาติและผลกระทบต่อเศรษฐกิจมาเลเซีย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มาเลเซียได้ดึงดูดการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์จากบริษัทระดับนานาชาติ เช่น Intel จากสหรัฐฯ ที่ประกาศสร้างโรงงานบรรจุภัณฑ์ชิป 3 มิติมูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 และ Infineon จากเยอรมนีที่ลงทุน 5,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 เพื่อขยายโรงงานผลิตชิปสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีบริษัทตะวันตก เช่น AT&S, Nvidia, Texas Instruments, Ericsson, Bosch และบริษัทจีน เช่น Xfusion, StarFive และ TongFu Microelectronics ที่ขยายแผนการลงทุนในมาเลเซีย ทั้งนี้ รายงานจาก New York Times ระบุว่าปัจจุบันมาเลเซียเป็นผู้ส่งออกเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่อันดับ 6 ของโลก แม้ว่าส่วนใหญ่จะเน้นที่กระบวนการประกอบและการทดสอบ
ในประเทศไทย นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 โดยมีนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ เป็นกรรมการและเลขานุการ หน้าที่ของบอร์ดนี้รวมถึงการกำหนดนโยบายและเป้าหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง การส่งเสริมการลงทุน การพัฒนาบุคลากร และการสร้าง Supply Chain ที่แข็งแกร่ง
ความท้าทายในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก
รายงาน “EMERGING RESILIENCE IN THE SEMICONDUCTOR SUPPLY CHAIN” ที่เผยแพร่โดย Boston Consulting Group และ The Semiconductor Industry Association ในเดือนพฤษภาคม 2024 ระบุว่า ห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกกำลังเผชิญความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น จากความขัดแย้งทางทหารและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การหยุดชะงักของก๊าซนีออนจากรัสเซีย–ยูเครน หรือข้อพิพาทระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในปี 2019 ที่ส่งผลต่อการควบคุมการส่งออกวัสดุสำคัญต่อการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
รายงานนี้ยังระบุว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก แม้ว่าสหรัฐฯ จะยังคงเป็นผู้นำในด้านการออกแบบ IP และเทคโนโลยี EDA ในขณะที่จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้เป็นผู้นำในด้านวัสดุและการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการแยกส่วนห่วงโซ่อุปทานเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ กำลังผลักดันให้สหรัฐฯ พิจารณาย้ายการผลิตขั้นสูงบางส่วนออกจากจีนและไต้หวัน
การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกทำให้นักลงทุนแรงงานทักษะสูง และผู้ผลิตแร่จำเป็นจับตามองการกระจายตัวของซัพพลายเชนอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน ประเทศไทยเองควรพิจารณาการเข้าสู่แผนที่ของการผลิตเทคโนโลยีชั้นสูงนี้
แหล่งที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1151481