12 พฤศจิกายน 2567
รายงานจาก Nikkei Asia ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมสนับสนุนงบประมาณอย่างน้อย 10 ล้านล้านเยน (ประมาณ 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2.26 ล้านล้านบาท) เพื่อกระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตามแผนที่นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะกำหนดไว้ โดยแผนนี้ยังรวมถึงการดึงดูดการลงทุนจากภาครัฐและเอกชนมูลค่ากว่า 50 ล้านล้านเยน (11.29 ล้านล้านบาท) ภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า
แผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุม
แผนดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ซึ่งมีกำหนดประกาศในเดือนพฤศจิกายน หนึ่งในกลุ่มบริษัทที่มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากแผนนี้คือ Rapidus ซึ่งมุ่งเน้นการผลิตชิปรุ่นใหม่ที่มีความล้ำสมัย โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในหลายรูปแบบ เช่น
- เงินอุดหนุน
- การลงทุนผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล
- การค้ำประกันหนี้สำหรับเงินกู้จากสถาบันการเงินเอกชน
กรอบการลงทุนเพื่ออนาคต
รัฐบาลวางเป้าหมายที่จะไม่ใช้การออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อระดมทุนสำหรับโครงการนี้ โดยตั้งเป้าจัดทำกรอบการพัฒนาอุตสาหกรรม AI และเซมิคอนดักเตอร์ให้มั่นคงจนถึงปีงบประมาณ 2573 ทั้งนี้ คาดว่าแผนดังกล่าวจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจรวม มูลค่าสูงถึง 160 ล้านล้านเยน (ประมาณ 36.12 ล้านล้านบาท)
กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังจัดทำกฎหมายเพื่ออนุญาตให้สถาบันที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลสามารถค้ำประกันหนี้และสนับสนุนการลงทุนแก่บริษัทต่างๆ โดยเฉพาะ Rapidus ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการผลิตชิปรุ่นต่อไปในปี 2570 รัฐบาลตั้งเป้าเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อรัฐสภาภายในปี 2568
ความมั่นคงทางเศรษฐกิจผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัย
รัฐบาลญี่ปุ่นมองว่า การพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเป็นสิ่งจำเป็นจากมุมมองด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยจะเปลี่ยนรูปแบบการให้เงินอุดหนุนจากแผนรายปีที่มีความไม่แน่นอนสูง มาเป็นการล็อกความช่วยเหลือในระยะยาวแทน เพื่อสร้างความมั่นใจในการดำเนินโครงการ
งบสนับสนุนที่ผ่านมา
จนถึงขณะนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติเงินอุดหนุน 920,000 ล้านเยน (ราว 207,700 ล้านบาท) สำหรับโครงการผลิตชิปรุ่นใหม่ของ Rapidus ซึ่งมีความต้องการเงินทุนรวม 5 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.13 ล้านล้านบาท) เพื่อเริ่มการผลิตจำนวนมากในอนาคต
แผนนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และ AI พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจและความมั่นคงในระยะยาว
แหล่งที่มา : https://www.amarintv.com/spotlight/economy/500155