Home » แนะนำเทคนิคและวิธีการประหยัดพลังงานในโรงงาน

แนะนำเทคนิคและวิธีการประหยัดพลังงานในโรงงาน

by admin
4 views

การประหยัดพลังงานในโรงงาน เป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้นในยุคที่ต้นทุนพลังงานสูงขึ้นและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นเป้าหมายหลัก การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

การตรวจสอบพลังงาน (Energy Audits)

การ การประหยัดพลังงานในโรงงาน ด้วยการตรวจสอบพลังงานเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการระบุแหล่งที่มาของการใช้พลังงานที่มากเกินไป การตรวจสอบพลังงานประกอบด้วยสามส่วนหลัก ได้แก่ การประเมินผล การทดสอบ และการแนะนำวิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพ

  • การประเมินผล (Evaluation): วิเคราะห์ข้อมูลการใช้พลังงานในปัจจุบันเพื่อระบุพื้นที่ที่ใช้พลังงานมากเกินไป
  • การทดสอบ (Testing): ตรวจสอบและทดสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อดูว่ามีการใช้พลังงานอย่างไร
  • การแนะนำ (Recommendations): ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการลดการใช้พลังงานและปรับปรุงประสิทธิภาพ มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ ISO 50002 (Energy Audits)

 

การใช้ระบบแสงสว่างอย่างมีประสิทธิภาพ (Efficient Lighting Systems)

ระบบแสงสว่างเป็นหนึ่งในแหล่งใช้พลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโรงงาน การปรับปรุงระบบแสงสว่างสามารถช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมาก

  • การปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน (Occupancy Sensors): ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่ไม่ถูกใช้งานตลอดเวลา เพื่อให้ไฟฟ้าดับเมื่อไม่มีคนอยู่
  • การใช้หลอด LED (LED Lighting): เปลี่ยนหลอดไฟเดิมเป็นหลอด LED ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดไฟทั่วไป มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ ENERGY STAR Certified LED
  • ระบบควบคุมแสงสว่างอัจฉริยะ (Smart Lighting Controls): การใช้ระบบควบคุมแสงสว่างที่สามารถปรับระดับความสว่างตามความต้องการใช้งานและสภาพแวดล้อม เช่น ระบบ DALI (Digital Addressable Lighting Interface)

 

การใช้แหล่งพลังงานธรรมชาติ (Utilizing Natural Resources)

การใช้แหล่งพลังงานธรรมชาติสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานได้

  • การระบายอากาศธรรมชาติ (Natural Ventilation): เปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อให้มีการระบายอากาศธรรมชาติ ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ ASHRAE 62.1 (Ventilation for Acceptable Indoor Air Quality)
  • การใช้แสงธรรมชาติ (Daylighting): ติดตั้งหน้าต่างหรือสกายไลท์เพื่อใช้แสงธรรมชาติในการส่องสว่างภายในโรงงาน มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design)
  • การออกแบบระบบระบายอากาศเชิงพลังงาน (Passive Solar Design): การออกแบบอาคารให้ใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ในการควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร เช่น การใช้หน้าต่าง Low-E (Low Emissivity) เพื่อป้องกันความร้อนจากภายนอก

 

การอัปเกรดระบบทำความร้อนและความเย็น (Upgrading Heating and Cooling Systems)

ระบบทำความร้อนและความเย็นเป็นแหล่งใช้พลังงานใหญ่ในโรงงาน การอัปเกรดระบบเหล่านี้สามารถช่วยการประหยัดพลังงานในโรงงาน ได้มาก

  • การเปลี่ยนเครื่องทำความร้อนและเครื่องปรับอากาศเก่า (HVAC System Upgrades): อัปเกรดเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการใช้พลังงาน มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ ASHRAE 90.1 (Energy Standard for Buildings Except Low-Rise Residential Buildings)
  • การใช้เทอร์โมสแตทอัจฉริยะ (Smart Thermostats): ติดตั้งเทอร์โมสแตทอัจฉริยะที่สามารถปรับอุณหภูมิได้จากมือถือและมีการรายงานการใช้พลังงาน เช่น Nest หรือ Ecobee
  • ระบบควบคุมอุณหภูมิแบบโซน (Zoned HVAC Systems): การแบ่งพื้นที่การควบคุมอุณหภูมิเป็นโซนเพื่อปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่ มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ ISO 16484-2 (Building Automation and Control Systems – BACS)

 

การติดตั้งระบบฉนวน (Insulation Systems)

การติดตั้งฉนวนในโรงงานช่วยลดการสูญเสียพลังงานจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิภายในโรงงาน

  • ฉนวนหลังคาและผนัง (Roof and Wall Insulation): ติดตั้งฉนวนในหลังคาและผนังเพื่อลดการสูญเสียความร้อนหรือความเย็น มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ ASHRAE 90.1
  • ฉนวนพื้น (Floor Insulation): การติดตั้งฉนวนในพื้นที่โรงงานเพื่อลดการสูญเสียพลังงาน
  • การใช้วัสดุฉนวนที่มีประสิทธิภาพสูง (High-Efficiency Insulation Materials): การใช้วัสดุฉนวนที่มีค่า R-Value สูงเพื่อลดการสูญเสียพลังงาน เช่น โฟมโพลียูรีเทน (Polyurethane Foam) หรือฉนวนไฟเบอร์กลาส (Fiberglass Insulation)

 

การลดเวลาการเปิดประตู (Reducing Door Opening Times)

การลดเวลาการเปิดประตูอัตโนมัติช่วยลดการสูญเสียความร้อนหรือความเย็น

  • การตั้งค่าการเปิดปิดประตู (Automatic Door Controls): ลดเวลาการเปิดประตูอัตโนมัติให้น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
  • การติดตั้งประตูสองชั้น (Vestibule Entry Systems): การใช้ระบบประตูสองชั้นเพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานเมื่อเปิดประตู มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ ASHRAE 90.1 (Energy Standard for Buildings Except Low-Rise Residential Buildings)

 

การบำรุงรักษาอุปกรณ์ (Equipment Maintenance)

การบำรุงรักษาอุปกรณ์ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยใน การประหยัดพลังงานในโรงงาน

  • การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance): ทำการบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ ISO 55000 (Asset Management)
  • การตรวจสอบอุปกรณ์ (Equipment Inspections): ตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและแก้ไขก่อนที่จะเกิดความเสียหาย
  • การใช้ระบบ CMMS (Computerized Maintenance Management System): การใช้ซอฟต์แวร์ CMMS ในการจัดการและติดตามการบำรุงรักษาอุปกรณ์ เช่น IBM Maximo หรือ SAP PM

 

การปิดอุปกรณ์เมื่อไม่ใช้งาน (Turning Off Equipment)

การปิดอุปกรณ์เมื่อไม่ใช้งานเป็นวิธีที่ง่ายแต่มีประสิทธิภาพใน การประหยัดพลังงานในโรงงาน

  • การตั้งค่าการพักเครื่อง (Hibernation Mode): ใช้โหมดพักเครื่องสำหรับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เพื่อประหยัดพลังงาน มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ ENERGY STAR for Computers
  • การปิดเครื่องจักร (Shutting Down Machinery): ปิดเครื่องจักรเมื่อไม่ใช้งาน เพื่อลดการใช้พลังงาน เช่น การปิดเครื่องอัดอากาศ (Air Compressors) หรือเครื่องทำความร้อน (Boilers) เมื่อไม่ได้ใช้งาน

 

การใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Sources)

การใช้พลังงานหมุนเวียนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงาน

  • พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power): ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ IEC 61215 (Crystalline Silicon Terrestrial Photovoltaic Modules – Design Qualification and Type Approval)
  • พลังงานลม (Wind Power): ใช้กังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ IEC 61400 (Wind Turbines)
  • พลังงานชีวมวล (Biomass Energy): ใช้พลังงานจากวัสดุชีวมวลในการผลิตไฟฟ้าและความร้อน เช่น การใช้ขยะชีวมวล (Biomass Waste) หรือการใช้ก๊าซชีวภาพ (Biogas) ในกระบวนการผลิตพลังงาน

 

การสร้างความร่วมมือภายในองค์กร (Collaborative Efforts)

การประหยัดพลังงานในโรงงานต้องการความร่วมมือจากทุกคนในองค์กร

  • การฝึกอบรมและการสื่อสาร (Training and Communication): สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการประหยัดพลังงานและการปฏิบัติที่ดีในการใช้พลังงาน มาตรฐานที่เกี่ยวข้องคือ ISO 50001 (Energy Management Systems)
  • การมีส่วนร่วมของพนักงาน (Employee Involvement): สนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในการระบุและแก้ไขปัญหาการใช้พลังงาน เช่น การสร้างทีมประหยัดพลังงาน (Energy Saving Teams) หรือการจัดประกวดแนวคิดการประหยัดพลังงาน (Energy Saving Idea Contests)

 

สรุป การประหยัดพลังงานในโรงงานเป็นการลงทุนที่มีผลตอบแทนสูง ทั้งในแง่ของการลดค่าใช้จ่ายและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การใช้วิธีการและเทคโนโลยีที่เหมาะสมจะช่วยให้โรงงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน


ติดต่อเรา

หากคุณสนใจบริการของเรา หรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข่าวล่าสุด

ข่าวกระแส

All Right Reserved. Designed and Developed by ppetrendy